ในตอนที่แล้วผมได้กล่าวถึงอาการกล้ามเนื้อตายที่พัฒนามาจากอาการกล้ามเนื้อแข็งตัว ลักษณะของอาการกล้ามเนื้อตายก็คือ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดแบบหน่วงๆเฉพาะจุดซึ่งจะสามารถระบุจุดที่ปวดได้อย่างชัดเจน แต่อาการปวดจะรุนแรงมากถึงขนาดผู้ป่วยไม่อยากจะขยับตัวกันเลยทีเดียว
สาเหตุหลักๆที่ทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้อตายได้นั้น ก็คือการเกร็งตัวของกล้ามเนื้ออย่างรุนแรงและต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเวลานานในตำแหน่งเดิมๆ ซึ่งโดยปกติแล้วเมื่อมีอาการปวดเมื่อยเล็กน้อย คนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยสนใจและคิดว่าหายได้เอง แต่ในหลายๆกรณีที่อาการปวดเพียงเล็กน้อยนั้นถูกปล่อยปละละเลย และพฤติกรรมที่ผิดสุขลักษณะของผู้ป่วยเองที่ช่วยให้เกิดการเกร็งตัวบริเวณเดิม ซ้ำไปซ้ำมา จนทำให้อาการรุนแรงขึ้น โดยส่วนใหญ่มักจะไปพบแพทย์ก็ต่อเมื่ออาการหนักเสียแล้ว
กล้ามเนื้อตายส่งผลร้ายแรงต่อร่างกายมากน้อยแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เกิดอาการกล้ามเนื้อตาย หากเกิดบริ้วณแขนหรือขา อาการจะไม่หนักมาก สามารถแก้ไขได้แต่ผู้ป่วยจะต้องทนทุกข์ทรมาณจากอาการปวดจนกว่าจะหายจากอาการ แต่หากเป็นในจุดสำคัญอื่นๆเช่น บริเวณดล้ามเนื้อใกล้ตำแหน่งหัวใจ อาการจะรุนแรงมากกว่าเพราะอาการที่แสดงออกมาไม่ได้เกิดจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อเพียงอย่างเดียว แต่หากส่งผลให้เกิดความผิดปกติต่อหัวใจอีกด้วย อย่างไรก็ตามการเกิดกล้ามเนื้อตายบริเวณใกล้หัวใจนั้นเกิดได้น้อย แต่หากเกิดขึ้นแล้วก็จะสามารถก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้
การรับประทานอาหารจำพวกถั่วเปลือกแข็ง กะหล่ำปลี จมูกข้าวสาลี และน้ำมันจากเมล็ดธัญพืช โดยทั้งหมดนี้ล้วนอุดมไปด้วยวิตามินอี ซึ่งวิตามินอีมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดกล้ามเนื้อตายได้มาก อย่างไรก็ดีถึงแม้วิตามินจะมีส่วนช่วยแต่ตัวกำหนดสุขภาพของเราก็คือพฤติกรรมของเรานั้นเอง หากเราเดิน วิ่งให้ถูกวิธี นั่งอย่างถูกสุขลักษณะ นอนในท่าที่เหมาะสม หมั่นเปลี่ยนอิริยาบถและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เท่านี้ก็ทำให้ร่างกายเราแข็งแล้วแรงครับ
บทความโดย หมอธนกฤต