อาการชาในบริเวณต่างๆน่ากลัวหรือไม่

อาการชาสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกๆส่วนของร่างกาย โดยปกติหากเรากดทับอวัยวะหนึ่งจนเลือดไม่เพียงพอ ก็จะเกิดการชาขึ้นได้ แต่ในทางกลับกันบางครั้งอาการชาบนร่างกายกลับเกิดขึ้นทั้งๆที่เรายังไม่ได้มีการกดทับใดๆที่อวัยวะนั้น ในตอนนี้ผมจะมาพูดให้ฟังว่า อาการชาแบบหลังเกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง และอันตรายหรือไม่

ผมขอยกตัวอย่างอวัยวะแรกที่เกิดขึ้นเยอะที่สุด ก็คือปลายนิ้วของเรา ในกรณีที่การชานั้นเกิดจากปลายนิ้วแล้วค่อยๆลามมาอย่างช้าๆ จนบริเวณที่ชานั้นใหญ่ขึ้น ซึ่งเหตุของอาการมักเกิดจากการที่หัวมุมของสะบักหรือด้านบนของสะบักถูกกดทับ หรือในกรณีนิ้วเท้า มักเกิดจากที่สะโพกตรงจุดสลักเพชรถูกกดทับ โดยตำแหน่งที่เกิดการกดทับจะมีอาการปวดเสียว โดยอาการปวดนี้หากทิ้งไว้นาน ปลายนิ้วที่ชาจะค่อยๆลามลงมาตามนิ้ว เนื่องจากเลือดเข้าไปปล่อเลี้ยงไม่พอ เปรียบเสมือนท่อประปาต้นทางน้ำจะไหลแรง แต่เมื่อไปถึงสถานที่ห่างไกล น้ำจะไหลเบาลง และยิ่งเกิดการกดทับกี่ไหลของเลือดจะไม่เข้าถึงบริเวณปลายนิ้วอย่างเพียงพอ

ส่วนการชาในบริเวณแขน ขา มือ เท้า มักเกิดจากการกดทับของเส้นเลือดเช่นเดียวกับด้านบน อาจจะเกิดได้หลายตำแหน่งเช่น สะบัก หัวไหล่ ข้อศอก ข้อมือ สะโพก เข่าและตาตุ่ม เป็นต้น โดยส่วนใหญ่จะเกิดเพียงชั่วคราวตามอิริยาบถในการนั่ง นอน ยืน เดิน เมื่ออิริยาบถเปลี่ยน การกดทดก็จะหายไปนั่นเอง แต่ถ้าหากว่าการชานั้นเกิดบ่อยครั้งมาก จะส่งผลเสีบต่ออวัยวะนั้นๆได้

ฉะนั้นเมื่อเกิดการชาแล้ว ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ ลองสังเกตว่าอาการชาเกิดจากสาเหตุใด หมั่นสังเกตอิริยาบถของเราที่ทำให้เกิดการชา เมื่อไปพบแพทย์จะสามารถอธิบายลักษณะอาการได้อย่างแม่นยำและทำให้การรักษาเร็วขึ้น

บทความโดย หมอธนกฤต

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Discover more from ธิติวงษ์คลินิกการแพทย์แผนไทย | ตอกเส้นไม่เจ็บ โดย หมอธนกฤต

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading