เชื่อว่าหลายๆท่านคงเคยมีอาการปวดหลัง หนักบ้าง เบาบ้าง ทั้งนี้คนส่วนใหญ่คิดว่าอาการปวดหลัง ให้ปล่อยเอาไว้เดี๋ยวก็หายไปได้เอง ซึ่งในข้อนี้มีส่วนถูกครึ่งหนึ่ง ซึ่งก็คือร่างกายของเราจะมีระบบการซ่อมแซมตนเองทำให้อาการปวดหลังทุเราลงเมื่อเวลาผ่านไป แต่หากในกรณีของอาการปวดหลังที่มักเป็นๆหายๆหรืออาการปวดหลังเรื้อรัง การปล่อยทิ้งเอาไว้อาจไม่ใช่วิธีที่ดีนัก อาการปวดหลังสามารถเกิดได้มากมายหลายสาเหตุ และบริเวณที่ปวดนั้นมีหลายจุด ซึ่งแต่ละคนจะมีอาการปวดที่แตกต่างกันและคนละบริเวณกัน ผมขอแบ่งสาเหตุของการปวดหลังคร่าวๆดังนี้
การปวดหลังเรื้อรังเนื่องจากการนอนที่ไม่ถูกสุขลักษณะ
การนอนที่ไม่ถูกวิธีเช่นนอนตัวงอ นอนบนเตียงที่นิ่มเกินไปบริเวณเอว การนอนบนพื้นที่แข็งเกินไป เป็นต้น ซึ่งการนอนลักษณะดังที่กล่าวมาจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้ การนอนเตียงที่นิ่มเกินไปจนยุบบริเวณเอวลงไป เวลานอนจะสะโพกของเราจะจมลงไปส่งผลให้หลังของเราแอ่นขึ้นมา ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการปวด ส่วนการนอนบนเตียงที่แข็งเกินไปเช่นนอนบนเตียงไม้แบบไม่มีฟูก สามารถทำให้เกิดการอักเสบบริเวณที่ร่างกายกดทับขณะเวลานอน เนื่องจากน้ำหนักตัวของเราถูกทิ้งลงบนบริเวณที่สัมผัสกับเตียง ทำให้จุดเหล่านั้นเกิดอาการอักเสบและปวดขึ้นได้ และท้ายที่สุดการนอนตัวงอ จะส่งผลกระดูกคดผิดรูปได้ เมื่อเรานอนผิดท่าเป็นเวลานาน อาการปวดหลังจึงมักจะเป็นๆหายๆเป็นเวลานาน และเมื่อมีอาการเรื้อรัง ความเจ็บปวดจะเพิ่มความรุนแรงขึ้น เนื่องจากส่วนที่เกิดการอักเสบ เมื่อถูกทำซ้ำเป็นเวลานานมักเกิดการอักเสบจนมีอาการกล้ามเนื้อแข็ง และมีพังผืดได้
การปวดหลังเรื้อรังเนื่องจากท่านั่งที่ไม่ถูกวิธี
ปัจจุบันเรามักเห็นคนชอบนั่งท่าครึ่งนั่งครึ่งนอน ซึ่งแน่นอนว่าเป็นท่าที่หลายคนชื่นชอบ เพราะว่าสบาย แต่ในความจริงแล้วท่านั่งนี้กลับมีโทษมหันต์ ท่านั่งที่เหมาะสมควรเป็นการนั่งหลังชิดหนัก ที่รองนั่งจะต้องอยู่ใต้ตลอดต้นขาและสะโพกต้องชิดกับหนัก เมื่อให้น้ำหนักของการนั่งลงไปที่บริเวณสะโพกและก้น แต่การนั่งแบบครึ่งนั่งครึ่งนอน จะทำให้จุดศูนย์ถ่วงของน้ำหนักตัวเปลี่ยนไปและจะทำให้เกิดอาการปวดหลังตามมาได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ส่วนการนั่งไขว่ห้างที่หลายๆคนเชื่อว่าเป็นหนึ่งในสาเหตุของการปวดหลังเรื้อรัง ซึ่งความจริงแล้วมีส่วนถูกและผิด การนั่งไขว่ห้างที่ถูกวิธีนั่นก็คือการไม่นั่งหลังค่อมและตัวบิด เป็นการพักกล้ามเนื้อวิธีหนึ่ง แต่ไม่ควรนั่งท่าเดิมเกิน 15 นาที ต้องมีการสลับเปลี่ยนข้าง เพราะหากนั่งนานเกินไป การนั่งไขว่ห้างร่างกายจะมีการบิดตัวส่งผลให้เกิดอาการปวดหลังขึ้นได้
การปวดหลังเรื้อรังเนื่องจากการยกของหนัก
การก้มลงไปยกของหนักถือว่าเป็นท่าต้องห้ามของคนทุกเพศ ทุกวัย เพราะเป็นท่าที่มีความเสี่ยงสูงในการเกิดการผิดปกติกับหลังของเรา การก้มลงไปยกของ หลังของเราจะงอลงและเมื่อยกของที่มีน้ำหนักมาก กระดูกสันหลังจะไม่สามารถรับน้ำหนักได้ แต่ในทางกลับกันหากเราย่อตัวแล้วค่อนยกของขึ้น หลังของเราจะอยู่ในลักษณะตรงเรียงกัน ซึ่งเป็นสรีระที่ถูกต้องของมนุษย์ อาการปวดจากการก้มลงยกของหนักอาจมีตั้งแต่อาการปวดเมื่อยธรรมดา ไปจนอาการปวดที่รุนแรงจนส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน โดยบางคนถึงกับเดินลำบาก ได้เลยทีเดียว
การปวดหลังเรื้อรังเนื่องจากการออกกำลังกาย
เชื่อหรือไม่ว่าการออกกำลังกายเช่นการวิ่ง สามารถทำให้เกิดอาการปวดหลังได้ ซึ่งอาการปวดหลังจากการวิ่งจะมีอาการปวดร้าวไปทั่วแผ่นหลังเนื่องจากหลายๆคนชอบโน้มตัวขณะวิ่งมากเกินไป ทำให้ร่างกายเสียสมดุลขณะวิ่ง ร่างกายจึงพยายามพยุงไม่ให้ล้มโดยการเกร็งตัวขณะวิ่ง โดยที่นักวิ่งอาจไม่รู้สึกตัว เมื่อแผ่นหลังมีการเกร็งตัวเป็นเวลานาน จะส่งผลให้เกิดอาการปวดหลัง อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนท่าทางการวิ่งอาจเป็นเรื่องยากสำหรับหลายๆท่าน แต่ในปัจจุบันรองเท้าสำหรับกีฬาวิ่งหลายๆรุ่นได้รับการออกแบบขึ้นมาเพื่อถนอมหลังของนักวิ่งด้วยเช่นกัน ซึ่งทุกคนสามารถสอบถามกับพนักงานขายรองเท้ากีฬา ซึ่งตอนนี้มีหลายๆยี่ห้อด้วยกันที่ตระหนักถึงอาการบาดเจ็บที่หลังจากการวิ่ง
อันที่จริงแล้วสาเหตุของการปวดหลังยังมีอีกมามายหลายสาเหตุ เช่น การยืนนาน การนั่งทำงาน การก้มเล่นโทรศัพท์มือถือ การปวดหลังจากอุบัติเหตุ และการปวดหลังในผุ้สูงอายุ เป็นต้น ซึ่งอาการปวดหลังเรื้อรังนี้อย่าคิดว่าปล่อยไว้ก็หายเองได้ แต่ผมอยากให้ทุกท่านหมั่นสังเกตตนเองว่าอาการปวดหลังนี้ มีอาการเป็นๆหายๆหรือไม่ เป็นมานานแล้วหรือยัง เพราะหากปล่อยเอาไว้นาน อาการจะทวีความรุนแรงมากขึ้นจนสามารถสร้างความเจ็บปวดทรมาณและยากแก่การรักษาอีกด้วย