หลังจากที่ผมได้เคยกล่าวถึงอาการปวดเมื่อยมาแล้ว 9 ตอน ซึ่งล้วนมาจากประสบการณ์ที่ผมรักษาคนไข้ด้วยการตอกเส้น โดยในตอนนี้ผมขอพูดถึงอาการที่มีความรุนแรงขึ้น ระดับความเจ็บปวดทรมาณสูงขึ้น ถึงขนาดบางรายต้องไปพบแพทย์เพื่อขอใช้ยาบรรเทาอาการปวด ซึ่งก็คืออาการปวดที่มีพังผืดเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยลักษณะเด่นก็คืออาการเจ็บแปล๊บเมื่อกดโดนจุดที่มีการอักเสบ และเมื่อปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปโดยไม่มีการรักษา อาการปวดจะทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมาก
ในตอนนี้ผมขอยกอาการของโรคข้อเข่าเสื่อม โดยอาการเด่นๆของโรคนี้คือ 1. เวลาเดินทุกย่างก้าวจะปวดเสียว หากปล่อยทิ้งไว้จะปวดเพิ่มขึ้นจนบางรายถึงกับไม่อยากเดินกันเลยทีเดียว 2. ไม่สามารถนั่งคุกเข่าได้ 3. นั่งยองๆไม่ได้ 4. ในรายที่เป็นมากจะไม่สามารถนั่งพับเพียบได้ และ5. ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ปล่อยให้อาการรุนแรงขาจะมีลักษณะโก่งออก
โรคข้อเข่าเสื่อมนี้เกิดจากการทำงานหนัก เล่นกีฬาหนัก เต้นแอโรบิคจังหวะเร็วๆแรงๆ เดินขึ้นที่สูงเป็นประจำ ฯลฯ ทำให้เกิดการเสียดสีระหว่างกระดูกอ่อนที่อยู่ตรงปลายกระดูกขาท่อนบนกับกระดูกขาท่อนล่าง เมื่อเกิดการเสียดสีกันนานวันเข้ากระดูกอ่อนจะค่อยๆสึกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งกระดูกอ่อนเหลือน้อย ร่างกายจะป้องกันตนเองโดยการสร้างพังผืดเข้ามาขวาง เพื่อป้องกันไม่ให้กระดูกแข็งเสียดสีกันและจะก่อให้เกิดอันตรายกับขา
เมื่อมีพังผืดเข้ามากั้นกลาง ขณะที่เดินกระดูกขาท่อนบนและท่อนล่างจะไปบดกดทับพังผืด ทำให้เกิดอาการปวดเสียวขึ้นที่หัวเข่า ยิ่งนานวันพังผืดก็จะหนาเพิ่มมากขึ้น อาการปวดเสียวก็จะยิ่งรุนแรงเพิ่มมากขึ้นจนในที่สุดผู้ป่วยจะปวดจนไม่อยากขยับตัว ผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมเกือบทั้งหมดจะไม่ปวดเฉพาะบริเวณพังผืดเพียงอย่างเดียว แต่จะมีเรื่องของเส้นและเอ็นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย โดยเฉพาะตรงตำแหน่งข้อพับใต้เข่าข้างๆหัวเข่าด้านในมักจะมีปัญหามาก
ในตอนต่อไปผมจะมาพูดถึงเรื่องรองช้ำ หากใครงงว่ารองช้ำคืออะไร โปรดติดตามอ่านในตอนหน้าครับ
บมความโดย หมอธนกฤต