ธิติวงษ์คลินิกการแพทย์แผนไทย | ตอกเส้นไม่เจ็บ โดย หมอธนกฤต
ตอกเส้นแก้อาการปวดเมื่อย ปวดร้าวที่ขา ขาไม่มีแรง กล้ามเนื้ออักเสบ อาการปวดจากพังผืด ยกแขนไม่ขึ้น อาการปวดทุกจุดบนร่างกาย รักษาโรคด้วยตำรับการแพทย์แผนไทย
ในขณะที่เกิดโรค Covid-19 ระบาดอยู่นี้ หลายๆคนต้องทำงานที่บ้าน หรือหลายๆคนมีโอกาสออกนอกบ้านน้อยลง กิจกรรมขยับเขยื้อนร่างกายก็ย่อมน้อยลงไปด้วย การนั่งอยู่กับที่นานๆก็สามารถทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยที่หลังขึ้นมาได้หากนั่งอย่างไม่ถูกสุขลักษณะ ในวันนี้ผมจึงมานำเสนอท่ากายบริหารแบบง่ายเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดหลัง
ความจริงแล้วอาการปวดเมื่อย สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกส่วนของร่างกาย แต่จากประสบการณ์ที่ผมได้รักษาคนมาเป็นจำนวนมากและเป็นเวลานานมากว่า 2 ทศวรรษ อาการปวดเมื่อยบนร่างกายสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 จุดปวดหลัก และ 2 จุดปวดรองดังนี้
วันนี้เรามาดูว่าคนกลุ่มใดบ้างที่มีควสามเสี่ยงในการเกิดโรคพังผืดรัดกล้ามเนื้อที่บริเวณหลัง
เนื่องจากในขณะนี้สถานการของเชื้อไวรัส Covid19 หรือที่เรียกกันว่าโคโรน่าหรือเชื้ออู่ฮั่น กำลังแพร่ระบาดในประเทศไทยและทวีความรุนแรงมากขึ้น ทางธิติวงษ์คลินิกจึงมีมาตรการในการป้องกันการติดต่อสำหรับเชื้อไวรัสนี้ดังนี้
ากพูดถึงแพทย์แผนไทยแล้ว ทุกคนคงคิดถึงการนวดแผนไทยหรือการนวดแผนโบราณเป็นอย่างแรก แต่ความจริงแล้วการแพทย์แผนไทยยังมีศาสตร์อื่นๆอีกเช่น ศาสตร์ตำรับยาสมุนไพร ศาสตร์การกดจุด และศาสตร์การตอกเส้น เป็นต้น ซึ่งในระยะหลายปีที่ผ่านมามีผู้ที่ให้ความสนใจในศาสตร์การตอกเส้นมากขึ้น แต่ก็อาจยังมีคำถามว่าตอกเส้นดีอย่างไร แตกต่างจากการนวดแผนไทยอย่างไร เรามาหาคำตอบกันครับ
ในทุกๆวัน เราจะต้องมีการเคลื่อนไหวที่แขนอยู่ตลอดเวลา เช่น การหยิบของ เกาหลัง ล้วงกระเป๋ากางเกง เป็นต้น ซึ่งในอิริยาบถเหล่านี้ล้วนเกิดจากการทำงานของข้อไหล่ทั้งสิ้น เมื่อเกิดความผิดปกติขึ้นที่ข้อไหล่ การขยับแขนของเราจะไม่เป็นไปอย่างอิสระเช่นเดิม ซึ่งอาการดังกล่าวคืออาการข้อไหล่ติดนั่นเอง ซึ่งในอดีตอาการข้อไหล่ติดมักพบได้มากในผู้สูงอายุ แต่ในปัจจุบันอาการข้อไหล่ติดกลับพบได้มากขึ้นในกลุ่มคนวัยทำงาน
ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตั้งแต่ช่วงวันหยุดยาวเมื่อตอนสิ้นเดือน กรกฎาคม ถึงวันนี้ มีผู้ที่เข้ามารับการรักษาและสอบถามเรื่องอาการปวดหัวเข่าด้านนอกหลายคนมากทีเดียว โดยทุกคนล้วนมีอาการปวดหัวเข่าด้านนอกขณะที่เดินลงเนินหรือขณะวิ่ง ซึ่งอาการปวดจะเป็นอาการปวดจี๊ดขึ้นมาจนถึงกับต้องหยุดยืนพักกันเลยทีเดียว แล้วอาการปวดเข่าด้านนอกที่ว่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เรามาหาคำตอบกันครับ
เรามักเข้าใจว่าอาการปวดเมื่อยจะเกิดขึ้นแต่ในเฉพาะผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ผมเชื่อว่าหลายๆท่านที่อายุไม่เท่าไหร่ กลับมีความรู้สึกปวดเมื่อยขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ต้องนั่งทำงานอยู่ตรงหน้าจอคอมพิวเตอร์นานหรือผู้ที่มักมีพฤติกรรมแบบเดิมๆซ้ำๆเป็นเวลาหลายๆชั่วโมงและไม่ค่อยออกกำลังกาย อาการปวดคอ ปวดไหล่ ไหล่ตึง จะเริ่มมาถามหา
ตามที่ผมได้พูดถึงการปวดหลังเนื่องจากมีพังผืดมารัดกล้ามเนื้อหลังอันเนื่องมาจากท่านั่งในตอนที่แล้ว วันนี้ผมจะมาพูดถึงสาเหตุที่ทำไมเราถึงควรหลีกเลี่ยงการนั่งไม่เต็มก้นหรือนั่งแบบกึ่งนั่งกึ่งนอน
ก่อนที่จะเขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพต่อ ผมอยากจะแนะนำให้ท่านทั้งหลายมีสุขภาพดีกันจากภายในกัน ซึ่งก็คือการออกกำลังกาย โดยเพียงแค่การออกกำลังกายเล็กน้อยเพียง 60 นาที จะทำให้ร่างกายเราแข็งแรง โรคภัยไข้เจ็บต่างๆก็ยากที่จะมาทำอันตรายต่อเราได้
วันนี้ผมจะเขียนบทความเกี่ยวกับท่านั่งถ่ายทุกข์กัน หลายคนงงเกิดความสงสัยว่าทำไมผมถึงให้ความสำคัญกับการนั่งถ่าย เหตุผลก็คือท่านั่งของเรานั้น เป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคริดสีดวงทวารครับ ในปัจจุบันในห้องสุขาจะมีที่นั่งปลดทุกข์อยู่สองลักษณะคือ
ภาวะไขมันในเลือดสูงกลายเป็นโรคยอดฮิตของคนไทยไปแล้ว เมื่อร่างกายมีระดับคลอเรสเตอรอลมากเกินไป ไขมันเหล่านี้จะไปเกาะตัวบริเวณผนังหลอดเลือด และเมื่อมากเข้า จะเกิดอาการหลอดเลือดตีบ ทำให้เลือดหมุนเวียนยากซึ่งก่อให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ ในบทความความนี้ผมจะพูดถึงสมุนไพรพื้นบ้านของเราที่ช่วยลดระดับคลอเรสเตอรอลกันครับ
หลายท่านอาจงงว่าโรคหัวใจอ่อนล้าคืออะไร อาการเป็นอย่างไร อาการของโรคนี้คือมีอาการใจหวิว ใจเต้นเร็วหรือใจสั่น บางรายมีอาการเสียวจี๊ดหรือมีอาการแน่นที่หน้าอก เหงื่อออกมาก มือเท้าเย็น หายใจไม่เต็มอิ่ม หายใจได้ไม่ลึกประมาณลิ้นปี่ รู้สึกอ่อนเพลีย อารมณ์แปรปรวน นอนหลับยากหรือหลับได้ไม่นานตื่นเมื่อตื่นแล้วนอนให้หลับต่อยาก ปวดศีรษะเป็นประจำและมักจะปวดหัวมายเกรน เส้นที่ท้ายทอย บ่าไหล่จะตึงมาก
หัวใจทำหน้าที่ปั๊มและสูบฉีดเลือดที่อุดมไปด้วยสารอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงทั่วร่างกายโดยเฉพาะสมอง เมื่อหัวใจทำงานปอดก็ต้องทำงานด้วยโดยการฟอกเลือดดำให้กลายเป็นเลือดแดง เมื่อเรานอนดึกหัวใจต้องทำงานหนักและนานขึ้น หากเวลาพักน้อย หัวใจของคนเราซึ่งเป็นกล้ามเนื้อไม่ใช่ถูกสร้างขึ้นด้วยโลหะย่อมต้องเกิดอาการอ่อนล้า เมื่อนานวันเข้าจากอาการหัวใจอ่อนล้าจะสามารถพัฒนากลายมาเป็นโรคหัวใจได้ในหลายๆรูปแบบเช่น กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หัวใจโต หัวใจขาดเลือด หรือหัวใจฝ่อได้
คุณทราบหรือไม่ว่าการนอนดึกจะก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายและจะทำให้เกิดโรคต่างๆตามมาอีกหลายโรค เช่น นอนหลับยากหรือนอนหลับได้ไม่นานจะตื่นและจะหลับยากมาก โรคหัวใจเหนื่อยง่าย หายใจได้ไม่ลึกติดที่ลิ้นปี่ จิตใจหดหู่ ซึมเศร้า น้อยใจง่าย ปวดท้ายทอย มึนงง เวียนศีรษะ ความจำไม่ดี ความจำสั้น ปวดศีรษะ ปวดมายเกรนบ่อย กรดไหลย้อน ทำให้โลหิตจาง โดยเฉพาะผู้ที่เลือดน้อยอยู่แล้ว และอาการอื่นๆอีกมากมาย
